เกาหลีเหนือกล่าวว่าพวกเขาไม่เคยขายอาวุธให้รัสเซีย และไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้นในอนาคต หลังจากรายงานของสหรัฐฯ ตามมาว่ามอสโกได้ติดต่อเปียงยางเพื่อเติมคลังอาวุธ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียสามารถซื้อขีปนาวุธและกระสุนปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือได้
พวกเขากล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว ควบคู่ไปกับการซื้ออาวุธของอิหร่าน แสดงให้เห็นว่าการคว่ำบาตรจากตะวันตกกำลังขัดขวางความพยายามของรัสเซียในสงครามยูเครน
มอสโกปฏิเสธรายงานในขณะนั้น
การเคลื่อนไหวของอาวุธระหว่างสองประเทศจะเป็นการละเมิดการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
เมื่อวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวในแถลงการณ์ถึง KCNA สื่อทางการของเกาหลีเหนือว่า “เราไม่เคยส่งออกอาวุธหรือกระสุนใดๆ ไปยังรัสเซียมาก่อน และเราไม่มีแผนที่จะดำเนินการดังกล่าว”
เธอกล่าวหาว่าสหรัฐฯ และ "กองกำลังศัตรู" อื่นๆ เผยแพร่ข่าวลือเพื่อ "ทำให้วัตถุประสงค์ทางการเมืองและการทหารขั้นพื้นฐานของพวกเขาก้าวหน้า"
ในช่วงต้นเดือนกันยายน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การซื้อจากเกาหลีเหนือของรัสเซีย “อาจรวมถึงกระสุน ขีปนาวุธ และปืนใหญ่อัตตาจรหลายล้านนัด”
แต่โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ จอห์น เคอร์บี ปรากฏตัวในเวลาต่อมาว่ามีคุณสมบัติตามถ้อยแถลงดังกล่าว โดยกล่าวว่าการจัดซื้อยังดำเนินอยู่ และไม่มีหลักฐานว่าอาวุธดังกล่าวถูกใช้ในสงครามยูเครน
การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนก.พ. พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากองทัพของตนมีค่าใช้จ่ายสูง แม้จะใช้อาวุธขั้นสูง เช่น ขีปนาวุธ กองกำลังของยูเครนได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนักด้วยอาวุธตะวันตกซึ่งถูกส่งเข้ามาในประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
อาวุธที่ออกแบบโดยรัสเซียหลายชิ้นของเกาหลีเหนือมีมาตั้งแต่สมัยโซเวียต แต่ก็มีขีปนาวุธที่คล้ายกับของรัสเซีย
ในเดือนกรกฎาคม เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่รับรองพื้นที่แบ่งแยกดินแดนสองแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในยูเครนตะวันออกอย่างเป็นทางการ ในการตอบโต้ ยูเครนได้ตัดสัมพันธ์ทางการฑูตกับเปียงยางทั้งหมด
เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้คำมั่นที่จะขยาย "ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์" ของพวกเขาในจดหมายถึงนายคิม จอง อึน