อิหร่านได้ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Su-35 ของรัสเซีย
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ของรัฐอิหร่าน ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากภารกิจถาวรของอิหร่านต่อสหประชาชาติ (UN) การซื้อเครื่องบิน Su-35 ของอิหร่านจากรัสเซียได้เสร็จสิ้นแล้ว
หลังจากสงครามอิหร่าน-อิรักในปี 2531 อิหร่านได้ส่งคำขอไปยังบางประเทศเพื่อซื้อเครื่องบินขับไล่ และรัสเซียตอบรับคำขอนี้ในเชิงบวก หลังจากที่สหประชาชาติห้ามการค้าอาวุธกับอิหร่านตั้งแต่ปี 2550 ถูกยกเลิกในเดือนตุลาคม 2563 มีความพยายามซื้อเครื่องบิน Su-35 จากรัสเซีย และในที่สุดกระบวนการจัดหาเครื่องบินรบก็เสร็จสิ้น
รายงานดังกล่าวไม่มีข้อมูลว่าสัญญาซื้อขายได้ข้อสรุปเมื่อใด และรัสเซียจะจัดหา Su-35 จำนวนกี่ลำให้กับอิหร่าน
สื่ออิหร่านรายงานว่า เบื้องต้นเตหะรานจะซื้อเครื่องบินขับไล่ 24 ลำจากรัสเซีย ตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามโดยเตหะรานในปี 2558 ระหว่างสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และเยอรมนี การห้ามค้าอาวุธระหว่างประเทศที่มีมาเป็นเวลา 13 ปีและการห้ามเดินทางระหว่างประเทศสำหรับเจ้าหน้าที่อิหร่านบางคนถูกยกเลิกใน 2563.
Su-35 เครื่องยนต์สองที่นั่งเดี่ยวที่ออกแบบโดยรัสเซียจะถูกใช้เป็นเครื่องบินรบหลายบทบาทรุ่นที่สี่ กองทัพอากาศอิหร่านซึ่งไม่สามารถซื้อเครื่องบินรบได้เป็นเวลานานเนื่องจากการคว่ำบาตร มีเครื่องบิน F-4, F-5 และ F-14 รุ่นเก่าของอเมริกา เช่นเดียวกับ MiG-29 และ Su-24 ของรัสเซีย .
สังเกตว่าในช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 หน่วยข่าวกรองตะวันตกรายงานว่าสหพันธรัฐรัสเซียจะโอนเครื่องบินขับไล่ Su-35 จำนวน 24 ลำไปยังอิหร่านเพื่อแลกกับโดรนกามิกาเซ่ที่ใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนของยูเครน
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสหพันธรัฐรัสเซียได้สั่งซื้ออาวุธชุดใหม่จากอิหร่าน ซึ่งจะรวมถึงโดรนและขีปนาวุธนับร้อย ตาม GUR ของยูเครน เตหะรานยังคงปฏิเสธที่จะจัดหาขีปนาวุธให้กับเครมลิน
สหรัฐฯ ได้กล่าวว่าจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกันการถ่ายโอนอาวุธของอิหร่านไปยังรัสเซีย และอิสราเอลได้เตือนรัสเซียว่าการร่วมมือกับอิหร่านอาจนำไปสู่การเกิดขึ้นของขีปนาวุธจากยูเครน