เจ้าหน้าที่และบริการฉุกเฉินในรัฐอานธรประเทศและทมิฬนาฑูกำลังเตรียมพร้อมสำหรับ “พายุที่เลวร้ายที่สุดในความทรงจำล่าสุด” เมื่อพายุไซโคลนถล่ม
พายุไซโคลนมิชวง พัดถล่มทางตอนใต้ของอินเดีย หลังฝนตกหนักก่อนหน้านี้ทำให้เกิดคลื่นสูงซัดเข้าเมืองชายฝั่ง ถนนจมอยู่ใต้น้ำ และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อยเก้าคน รวมถึงเด็กหนึ่งคน
“พายุไซโคลนกำลังแรง” ที่มีความเร็วลมสูงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มชายฝั่งรัฐอานธรประเทศ ใกล้เมืองบาพัทลา หลังเที่ยงของวันอังคารไม่นาน กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย ระบุ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวก่อนหน้านี้ว่า ฝนตกมากกว่า 200 มม. (8 นิ้ว) ในบางพื้นที่ของรัฐในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
“เรากำลังเผชิญกับพายุลูกเห็บที่เลวร้ายที่สุดในช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา” เอ็มเค สตาลิน มุขมนตรีของรัฐทมิฬนาฑู ระบุในถ้อยแถลงเมื่อค่ำวันจันทร์ ในขณะที่ทางการอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากพื้นที่ชายฝั่ง
ก่อนแผ่นดินถล่ม น้ำท่วมร้ายแรงได้ไหลท่วมถนนในเมืองเจนไน ในรัฐทมิฬนาฑู เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 8 รายในรัฐนี้ บางรายจมน้ำตาย คนหนึ่งถูกต้นไม้ล้มทับ และอีกคนถูกไฟฟ้าดูดด้วยสายไฟที่อยู่ในน้ำ
ชาวเมืองเจนไนลุยน้ำลึกถึงเอวผ่านน้ำท่วมที่พัดพาผู้คนและยานพาหนะ ต้นไม้หักโค่น และบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม มีจระเข้ตัวหนึ่งว่ายอยู่ตามถนนในเมือง
ขณะเดียวกัน เด็กชายวัย 4 ขวบคนหนึ่งเสียชีวิตจากกำแพงที่พังทลายในเขตติรูปติ รัฐอานธรประเทศ ซี. นาการาจู ผู้อำนวยการบริหารของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของรัฐ กล่าว
ก่อนแผ่นดินถล่ม อุตสาหกรรม บริษัทขนส่ง ธุรกิจ และโรงเรียนต่างๆ หยุดทำงาน และรับฟังคำเตือนของทางการเกี่ยวกับความรุนแรงที่คาดการณ์ไว้ของพายุ น้ำท่วมยังทำให้สนามบินเจนไนต้องปิดชั่วคราว
ทีมกู้ภัยถูกส่งไปทั่วทั้งภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ และทีมอื่นๆ “เตรียมพร้อมเพื่อระดมพลหากจำเป็น” อามิท ชาห์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของรัฐบาลกลาง กล่าว รัฐบาล “พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดแก่รัฐอานธรประเทศ” เขากล่าว
คาดว่าพายุไซโคลนจะอ่อนกำลังลงช่วงดึกของวันอังคาร
ขอบคุณต้นฉบับข่าว: Al Jazeera